จะเป็นยังไงถ้าเอากล้อง GoPro ติดหลังนกอินทรีย์

หลายคนคงฝันถึงการบินได้เหมือนนก
ต้องขอบคุณเทคโนโลยีในปัจจุบัน เพราะมีคนลองเอากล้อง GoPro ไปติดหลังนก นี้คือสิ่งที่ได้ 

อีกคลิป ที่ดูไบ ในคลิปจะเห็น ตึกที่สูงที่สุดในโลก Burj Khalifa

อีกคลิปเห็น โรงแรมเรือใบ (Burj Al Arab) ที่โด่งดังด้วย

วิวแบบที่นกเห็นนี่แปลกตาแล้วก็สวยมากเลย ^^
ดูคลิปอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ https://www.youtube.com/channel/UC661JhZW_AVZXQKhb0qYynA

เซลฟี่ในอวกาศรูปแรกของโลก

รูปเซลฟี่เหล่าคนดังในงานออสก้าครั้งที่ 86 ปี 2014

โป๊ปฟรานซิสเซลฟี่กับกลุ่มเด็กวัยรุ่น

รายละเอียด
สมัยนี้หันไปทางไหนก็เจอแต่คนถ่ายเซลฟี่กันเป็นปกติ จะเป็นเหล่าดาราเซลฟี่กันเอง คนทั่วไปเซลฟี่กับคนดัง แต่จะมีใครรู้ไหมว่าเซลฟี่รูปแรกที่ถ่ายจากอวกาศนั้นคือใคร

บัซ อัลดิ

• คนที่ถ่ายรูปนั้นก็คือ เอ็ดวิน บัซ อัลดิน (Edwin Buzz Aldrin)

บัซ อัลดิ เซลฟี่ครั้งแรกนอกโลก พฤษจิกายน 1966 ก่อนที่เซลฟี่เริ่มแพร่หลายหลังจากนั้น 50 ปี

• เขาคือคนที่เหยียบดวงจันทร์พร้อมกับ นีล อาร์มสตรอง (Neil Armstrong)
• คาดว่าภาพเซลฟี่นี่จะมีราคาถึง 1,200 ปอนด์ จากการออกประมูล

ข้อมูลเพิ่มเติม

• dailymail.co.uk

ประเพณีนับหงส์ (Swan Upping) เมืองผู้ดีอังกฤษ

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จทอดพระเนตร ประเพณีนับหงส์ ในปี 2009 เป็นครั้งแรกของรัชสมัย

ประวิติ

• มีมานานกว่า 800 ปีแล้ว
• ต้นศตวรรษที่ 12 กษัตริย์มีสิทธิ์ครอบครองหงส์ทุกตัวในประเทศ
• เพราะเนื้อที่มีมูลค่าสูง และรสชาติอร่อย (สวยขนาดนี้ยังกินยัง)
• ศตวรรษที่ 19 กษัตริย์ให้สิทธิ์ Vintners' Company กับ Dyers' Company สามารถครอบครองหงส์ในแม่น้ำเทมส์ (River Thames)

ซ้าย : Dyers' Company ขวา : Vintners' Company

• สองบริษัทนี้จะดูแลรักษาหงส์ ร่วมกับกษัตริย์ ซึ่งตอนนี้ก็คือ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2
• ตอนนี้ไม่มีใครกินหงส์แล้ว แต่ประเพณีนับหงส์ยังถูกอนุรักษ์ไว้
• จัดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนกรกฏาคมของทุกปี

เดวิด บาร์เบอร์ ผู้นับหงส์ของสมเด็จพระราชินี

กว่าจะจับได้แต่และตัว

ผู้นับหงส์ของราชินิ(ธงขาว) ร่วมกับ Dyers' Company(ธงน้ำเงิน) กับ Vintners' Company(ธงแดง)

• โดยสำรวจประชากรหงส์ในแม่น้ำเทมส์ (River Thames)
• ชั่งน้ำหนัก ตรวจสุขภาพ ก่อนปล่อยกลับ

ข้อมูลเพิ่มเติม

• Wikipedia
• Royalswan
• Royal.uk
• footprintsoflondon.com

Trezor กระเป๋าเก็บ Bitcoin และเงินดิจิตอลอื่นๆ (ตอนที่ 1)

วันนี้เพิ่งได้ตัว Trezor มาก็เลยจะมาแกะกล่องรีวิวครับ

เกริ่นก่อนซักนิดครับ วิธีเก็บ Bitcoin มีหลายแบบมาก

• Desktop wallets
• Mobile wallets
• Online wallets
• Hardware wallets - ที่จะรีวิวสั้นๆ วันนี้
• Paper wallets

ถ้าตามความรู้สึกผม Hardware wallets ความปลอดภัยคงสูงสุด* แถมยังใช้งานง่ายครับ

*สาเหตุที่ผมต้องเสียเงิน 4 พันกว่าบาทเพราะข่าวครับ ช่วงนี้ ตอนนี้ เวลานี้ มีข่าว Hack บ่อยมาก มีการขโมยเหรียญเกิดขึ้นเรื่อยๆ จากเว็ปที่เป็นกระดานเทรด กันไว้ดีกว่าแก้ครับ

เริ่มเลย! ตัวกล่องเป็นกระดาษ มีพลาสติกใส่ห่อด้านนอก ด้านบนกับ ด้านล่างมีสติ๊กเกอร์ปิดทับ เพื่อยืนยันว่ากล่องยังไม่ได้ถูกเปิด

ด้านหน้ากล่อง

ด้านหน้ามีโลโก้กับยี่ห้อ Trezor แล้วก็ประโยคที่ว่า The original Hardware wallet ที่บอกว่าเขาเป็นเจ้าแรกในตลาด

ด้านหลังกล่อง (ขอเซ็นเซอร์ซีเรียลนัมเบอร์)

ด้านหลังมีคำเตือนสั้นๆ ประมาณว่า ถ้าสงสัยว่ากล่องถูกเปิดก่อนถึงมือเรา ก็ไม่ต้องเปิดกล่อง ให้เก็บกล่องไว้ แล้วติดต่อ Support ล่างสุดก็เป็นเว็ปไซต์วิธีการใช้งาน Trezor

สติ๊กเกอร์เพื่อยืนยันว่ากล่องยังไม่ได้ถูกเปิด

สภาพหลังจากพยายามเปิดกล่องแบบถนอมสุดๆ

อันนี้น่าจะเป็นความพยายามของคนคิดเจ้า Trezor ที่ป้องกันการเปิดกล่องก่อนถึงคนใช้ เพราะที่ผมดูรอบกล่องติดกาวแน่นมาก คือต่อให้ใช้คัดเตอร์แชะยังไงกล่องก็เยิน ชื่นชมในความเอาใจใส่ครับ

ของที่อยู่ภายในกล่อง

ในกล่องของก็จะมี

• ตัว Trezor สีดำ (มีสามสี ขาว เทา ดำ)
• สาย micro usb
• สายคล้อง
• Recovery seed 2 แผ่น ไว้จดคำ เวลาลืมรหัสผ่าน
• สติ๊กเกอร์ 4 แผ่น สีขาว 2 แผ่น สีดำ 2 แผ่น

ตัว Trezor เล็กดีครับ เก็บง่าย ห่ายก็ง่าย 555

เทียบกับมือ

ด้านหน้า

ด้านบน มีที่ใส่สายคล้อง

ด้านล่าง มีช่องเสียบ micro usb

ด้านหลัง

ตอนนี้ตัว Trezor จะสามารถเก็บเงินดิจิตอลได้หลักๆ ก็คือ BTC (Bitcoin), ETH (Ethereum), ETC (Ethereum Classic), DAS (Dash), LTC (Litecoin), ZEC (ZCash), NMC (Namecoin) แล้วก็ DOG (Dogecoin) เรียกว่าอันเดียวคุ้มเลยครับ ในอนาคตทางผู้ผลิตก็จะเพิ่มเหรียญใหม่ๆ เข้ามาเรื่อยๆ ครับ

จบการรีวิวสั้นๆ ครับ วันหลังจะมารีวิวการใช้งานว่าจะเป็นยังไง

ราคาที่ Shop online Trezor จะอยู่ที่ 115 ยูโร รวมค่าส่งครับ ก็ตกประมาณ 4,450 บาท

มีประกันจากทางผู้ผลิต 1 ปีครับ

หากท่านไหนสนใจสามารถ add id line เข้ามาสอบถามได้ก่อนนะครับราคาจะเท่ากับหน้าเว็ปครับ

id line : little_blue_bird

ตอนต่อไปผมจะมารีวิววิธีการตั้งค่าเจ้าตัว Trezor ก่อนเริ่มใช้งานครับ

ตอนที่ 5 Bitcoin เริ่มต้นเป็นเจ้าของแบบสายลงทุนขุดเหมืองเอง (ต่อ)

สายลงทุนน่าจะชอบวิธีนี้คือ "ทำเหมืองเองที่บ้าน" ตอนแรกที่ผมได้ยิน ก็งงเลยสิครับ  อะไร_่ะ  Bitcoin ก็จับต้องไม่ได้แล้วมันจะทำเหมองขุดได้ยังไง เอาอะไรไปขุด? แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่ จอบ หรือ เสียม แน่นอนอันนี้ผมมั้นใจ

-จะเอาอะไรมาขุด Bitcoin ?

• การ์ดจอแรงๆ (จริงอ่ะ ที่เอาไว้เล่นเกมส์อ่ะนะ)
• เครื่องขุดที่ออกแบบมาเฉพาะอย่างของ Bitmain จากจีน

-การ์ดจอ กับ เครื่องขุดเฉพาะ (antminer S9) ต่างกันยังไง?

• เทียบความแรงก็ต้องยกให้เครื่องขุด แต่ถ้าเสียก็ ขยะดีๆ นี่เอง เพราะเอาไปทำอย่างอื่นไม่ได้เลย
• ถ้าเป็นการ์ดจอ ถ้าเลิกขุดก็เอาไปใช้ต่อได้
• ขุด BTC ตรงไม่ได้ ต้องขุดเงินดิจิตอลสกุลอื่นอย่าง ETH หรือ Zcash ก่อนค่อยแลกกลับเป็น BTC

(ซ้าย) เครื่องขุดที่ใช้การ์ดจอ
(ขวา) เครื่องขุดแบบเฉพาะ

• ถามว่าแบบไหนเหมาะ คงขึ้นกับความเห็นส่วนบุคคลล้วนๆ ครับ

-แล้วตัวแปรสำคัญการ กำไร กับ ขาดทุน มันคืออะไระ?

• ราคาของ Bitcoin ครับ ถ้าราคาขึ้นสูงๆ ก็คืนทุนเร็ว ได้กำไรมาก
• แต่ถ้าราคาพุ่งลงแบบความเร็วแสง ก็จะเจอเหตุการณ์ รายได้จากการขุด ไม่คุ้มกับค่าไฟที่ต้องจ่าย
• หลายคนเลยที่ตัดสิ้นใจขายการ์จอที่ซื้อมาในราคาแพงทิ้ง แบบขาดทุนยับ
• ที่ต้องการจะสื่อคือ ราคาของ Bitcoin ผันผวนมากครับ วันนี้มันอาจจะขี่บั้งไฟพุ่งขึ้น 30% ไม่ต้องแปลกใจเลยครับว่า วันถัดมา หรือแม้แต่ชั่วโมงถัดมาราคามันจะตกแบบน่าใจหายลงไปที่ตาตุ่ม ลองดูกราฟด้านล่างแล้วจะเห็นภาพ

ราคาผันผวนสุดๆ

• ที่เห็นชัดๆ ก็ตอนนี้เลยครับ ที่ราคา Bitcoin ไปที่ 60,000 กว่าๆ เพราะนักพัฒนาทะเลาะกัน
• คนที่ถือก็กลัวว่าจะแยกทางกันเดิน แตกเป็น 2 เหรียญ Bitcoin เก่า กับ ใหม่
• แต่พอไม่กี่วันเรื่องจบ Happy เกิดอะไรขึ้นครับ ราคาพุ่งกลับมาที่ 90,000  บ้าไปแล้ว!!!
• Bitcoin อ่อนไหวมากครับ แต่เฉพาะแต่ข่าวที่เกี่ยวกับมันเองนะ อย่างเหตุก่อการร้ายที่อังกฤษ หรือ ฝรั่งเศส ไม่กระทบ Bitcoin ซักกะนิด ตลกมากอ่ะ 
• เลยต้องบอกว่าคนที่จะลงทุน นั้นต้องใจต้องหนุกแน่นดั่งขุนเขา ทนขาดทุนได้ ถึงจะรอดครับ

หลักๆ คนที่จะลงทุนขุดเองส่วนใหญ่ก็จะต้องมีเงินเยอะพอสมควรครับ กับต้องแบกรับความเสี่ยงด้วยตัวเอง ตอนที่ค่าของ BTC มันตกลง มีการซ่อมบำรุง มีเวลาดูแลอุปกรณ์ สม่ำเสมอ หรือพูดง่ายๆ เลยก็คือไม่เหมาะกับผมที่เป็นมนุษย์เงินเดือนนั้นเองครับ ผมเลยผ่านครับ

ตอนที่ 4 Bitcoin เริ่มต้นเป็นเจ้าของแบบง๊ายง่าย (ก็เอาเงินซื้อไง จะอะไรหละ)

ถึงตอนนี้ผมก็ตัดสินใจอยากได้ Bitcoin มาไว้ครอบครองแล้ว คำถามต่อมาคือ ผมจะเป็นเจ้าของมันได้ยังไง?

-จะเป็นเจ้าของ Bitcoin ได้ยังไง?

• ซื้อเลยง่ายดี (ว่าแต่ซื้อได้ที่ไหน?)
• ทำเหมืองขุดเองเลย
• สะดวกกว่าหน่อย เช่ากำลังขุด มีคนจัดการให้ นั่งรอสบายๆ ที่บ้าน

-ถ้าจะซื้อ Bitcoin จะซื้อที่ไหน?

• bx.in.th เว็ปไทย ฝากเงินออนไลน์ปุ๊บ ซื้อได้ปั๊บ สะดวก ง่าย ที่สำคัญจดทะเบียนถูกกฏหมาย โดนโกงก็ไปฟ้องศาลได้ -อันนี้ผมใช้อยู่

• coinbx.com เว็ปไทยน้องใหม่ เพิ่งเปิดตัว จุดเด่นคือ ช่วง 3 เดือนแรก ลดค่าธรรมเนียมเหลือ 0.15% เพื่อเรียกแขก ที่น่าสนคือ เขาเคลมว่าฝากเงินเข้าแค่ 3 นาที

• เว็ปนอกนี่อีกบานเลย Poloniex, Bitstamp, Kraken และอีกเยอะมากครับ
• ถ้าให้แนะนำเริ่มแรก ใช้เว็ป ซื้อ - ขาย Bitcoin ในไทยง่ายสุดครับ เวลามีปัญหาก็ติดต่อเจ้าหน้าที่ง่ายๆ
• ถ้าเป็นเว็ปต่างประเทศ ก็จะยุ่งอยากหน่อยที่ต้องแปลงเงินบาทเป็น usd ก่อน

ผมเพิ่งเริ่มต้นก็จะใช้เว็ปในไทยไปก่อนครับ ส่วนการลงทุนก็ ซื้อมา - ขายไป ในระยะสั้นครับไม่ได้ถือไว้นาน
วิธีนี้ผมมองว่าง่ายที่สุดที่จะลงทุนใน BTC ครับ ซื้อมาขายไป ในระยะสั้น หรือจะซื้อแล้วเก็บลงทุนในระยะยาวเพื่อขายในอนาคตที่ราคามันพุ่งขึ้นสูงครับ

ตอนที่ 3 เมื่อไม่มีศูนย์กลางแนวคิด Decentralization จะเปลี่ยนโลกได้ยังไง

จากบทความที่แล้ว ในตอนที่ 2 ได้พูดการไม่มีจุดศูนย์กลาง (Decentralization) ของ Blockchain

แนวคิดนี้สำคัญมากๆ แถมยังเป็นขบถกับ ธ. ในปัจจุบัน หน่อยๆ ด้วย

-แล้วตอนนี้ระบบการโอนเงินเราเป็นยังไง?

• ระบบโอนเงินทั้งโลกเรา ตอนนี้เป็นแบบรวมศูนย์ (Centralization)

-แบบรวมศูนย์ (Centralization) เป็นยังไง?

• ตัวอย่างง่ายๆ ตอนนี้เราจะโอนเงินผ่าน ธ. เป็นตัวกลางในการส่งเงิน ธ. ทำตัวแบบนี้

• เค้าก็จะเก็บค่าบริการเรา เป็นค่าอำนวยความสะดวก จะต่อ หรือขอลดก็ไม่ได้ 
• ทุกการโอนจะต้องวิ่งเข้าไป ธ. ก่อน หักค่าธรรมเนียม แล้วค่อยส่งต่อไป ธ. เลยเป็นจุดศูนย์กลางระบบ
• ถ้า ธ. ปิดระบบปรับปรุง หรือร้ายกว่านั้น ระบบล้มหละ  เราก็อดโอน

-ระบบ ธ. เขาทำมา 100 ล้าน 1,000 ล้าน แล้วแบบไม่มีจุดศูนย์กลาง (Decentralization) ดียังไง?

• ดีเพราะไม่รวมศูนย์ไง ไม่มีศูนย์กลาง ไม่มีใครควบคุม?? หือ!! อันนี้ดีหรอ
• ทุกคนเลยกลายเป็นเหมือน ธ.
• หน้าตามันเลยเปลี่ยนเป็นแบบนี้
  

• อันนี้พีคสุด ถ้าเกิดคนใดคนหนึ่งหายไปหละ เกิดอะไร

• หายไปหนึ่งก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหนิ ระบบยังทำงานตามปกติ
• เพราะยังเหลือคนอื่นๆ ที่จะทำหน้าที่แทน

ผมเลยลองคิดเล่นๆ ว่าวันหนึ่งผมไม่ต้องโอนเงินผ่าน ธ. แต่โอนตรงหาคนที่ต้องการได้ปลอดภัยเหมือนกับโอนผ่าน ธ. แต่เร็วและจ่ายค่าธรรมเนียมนิดเดียวมันจะดีขนาดไหน

ถึงตอนนี้ผมเริ่มมี Bitcoin ไว้ใช้แล้ว แต่จะหา Bitcoin มาจากที่ไหน?

ข้อมูลเพิ่มเติม

• https://letstalkpayments.com/an-overview-of-blockchain-technology/

ตอนที่ 2 Blockchain เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก หรือเปล่า?

นี่ต้องเป็นเทคโนโลยีที่เปลี่ยนโลกแบบที่ Internet ทำมาแล้วแน่ๆ นี่คือสิ่งที่ผมได้ยินหลายคนพูดถึง Blockchain ว่าแต่มันยิ่งใหญ่ขนาดนั้นเลยหรอ เลยเป็นที่มาของสิ่งที่จะเขียนวันนี้


-Blockchain คืออะไร?

• ป็นบัญชีสาธารณะแสดงธุรกรรมทั้งหมดของ Bitcoin (นั้นไงเริ่มเกี่ยวดองกันและ)
• ทั้งหมดหมายความว่าทั้งหมดจริงๆ นะ คือ Blockchain มันเก็บตั้งแต่ธุระแรกของ Bitcoin จนถึงอันที่อัพเดทล่าสุด

-Blockchain ยังไง?

• ตามชื่อเลยมันครับ มันจะเก็บข้อมูลเป็นบล็อกๆ
• ธุรกรรมก็จะถูกเก็บบันทึกใส่บล็อกไปเรื่อยๆ (Miner เป็นคนทำ) ในบล็อกนั้จนเสร็จ
• เสร็จแล้วก็จะเอาไปเก็บไว้ในฐานข้อมูลถาวร Blockchain
• แต่ละครั้งถ้ามีบล็อกนึงบันทึกข้อมูลเสร็จ บล็อกใหม่ก็จะถูกสร้างขึ้น
• แต่ละบล็อกจะเชื่มกันเป็นสาย เหมือน สายโซ่
• โยงกันไปกันมา ตรงตามชื่อมันเป๊ะๆ เลย

เครือข่ายบล็อกเซน

-Blockchain จะเปลี่ยนโลกยังไง?

• ไม่ต้องใช้ตัวกลาง เพราะทุกคนในระบบ จะมีข้อมูลแบบเดียวกัน ชุดเดียวกัน เหมือนกันเป๊ะๆ
• ถ้าจะเปลี่ยนแปลงมันจากแค่คนๆ นึง ทุกคนในวงก็จะเห็นได้ทันที
• เลยเช็คกันได้เอง ธนาคาร หรือ ตัวกลาง เลยหายไปเพราะไม่จำเป็นแล้ว 
• นี่คือเทคโนโลยีกระจายศูนย์กลาง (Decentralization technology) แนวคิดอันนี้แหละที่เปลี่ยนโลกของเรา

สุดท้ายผมก็ยังไม่ได้คำตอบจาก Blockchain เพราะสิ่งที่จะเปลี่ยนโลกมันคือแนวคิดของเทคโนโลยีกระจายศูนย์กลาง (Decentralization technology) ก็ต้องไปตามหาคำตอบกันในตอนต่อไป


ข้อมูลเพิ่มเติม

• https://letstalkpayments.com/an-overview-of-blockchain-technology/

ตอนที่ 1 Bitcoin คืออะไร?

ผมก็คงเหมือนหลายคนตอนนี้ที่สงสัยว่า Bitcoin คืออะไร? ทำไมใครๆ ก็พากันพูดถึงกันบ่อยมาก ทั้งใน Facebook, twitter แม้แต่ใน TV โดยเฉพาะไม่นานมานี้มีไวรัส Ransomware (ไวรัสเรียกค่าไถ่) ชื่อ Wanna cry ที่ออกข่าวกันไปทั่วโลก เลยเป็นที่มาของบล็อกนี่ ที่จะเอาสิ่งที่ผมตั้งคำถามแล้วไปหาคำตอบมาสรุปให้เข้าใจง่ายๆ สั้นๆ คงทำเป็นซีรีย์สั้นๆ 5-6 ตอน เพราะไม่ถนัดเขียนพวกเรื่งที่มีสาระ 5555

-คำถามแรกของผมคือ Bitcoin คืออะไร?

• Bitcoin เป็นเงินดิจิตอล ต่างจากเงินที่เรารู้จักกันคือ มันไม่มีตัวตนจับต้องไม่ได้

-ทำให้สงสัยมากขึ้นไปอีก อ้าวเฮ้ย!! มันไม่มีตัวตน เป็นแค่เงินสมมุติ ทำไมมันถึงมีค่า?

• สิ่งที่ทำให้มันมีค่าก็เพราะคนอยากใช้มันนั้นเอง

-แล้วทำไมคนถึงอยากใช้อ่ะ?

• Bitcoin โอนง่าย โอนเร็ว โอนตรงไม่ผ่านแบงค์  ฟังไม่ผิดใช่ป่ะ ไม่ผ่านแบงค์
• Bitcoin ใช่ที่ไหนก็ได้ในโลก แม่เจ้า O_O โครตเจ๋ง
• Bitcoin ค่าธรรมเนียมต่ำเตี้ยเรี่ยดินมาก ถูกสุดๆ

-ไม่ผ่านธนาคารแล้วผ่านใคร?

• วิธีโอนเงินจะผ่านเครื่อข่ายอินเตอร์เน็ตของ Bitcoin เอง
• จะมีคนที่เรียกว่า Miner ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย

-ระบบมันทำงานยัง?

• ง่ายๆ Bob จะโอน Bitcoin ไปหา Anna ก็จะโอนไปเครื่อข่ายอินเตอร์เน็ต

• แล้ว Miner จะช่วยกันนั่งยัน นอนยัน นะว่าไอ้ Bob เนี้ยโอนไปให้เจ๊ Anna จริงแล้ว

• พอ Miner หลายๆ คนช่วยกันนั่งยัน นอนยันเข้าว่าโอนแล้วจริงๆ นะ เขาก็จะเอามาบันทึกไว้ในไฟล์ของระบบที่เรียกว่า Blockchain (ฉิบหายมาอีกคำแล้ว) ที่ใครๆ ก็ดูได้ 

-แล้ว Miner ทำไปเพื่อได้อะไร นั้งแคะขี้เล็บ ไม่ก็ซักผ้าให้เมียอยู่ที่บ้านจะไม่ดีกว่าหรอ?

• ไม่มีของฟรีในโลกนี้อยู่แล้วครับ ไอ้ Miner ก็ได้ค่าตอบแทนจากการช่วยยืนยันนั้นแหละ
• เป็นเหมือนรางวัลที่ให้สำหรับคนใจดีที่มาช่วยยืนยันการโอน

คลิปสั้นๆ นาทีนิด อธิบายว่า Bitcoin คืออะไร

คงรู้จักคร่าวๆ นะครับว่า Bitcoin คืออะไร สำหรับผมมันเป็นอะไรที่สุดติ่งกระดิ่งแมวมาก คิดดูเกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่เวลาเราโอนเงินก็ต้องผ่านธนาคาร ไม่ก็ บ. อะไรซักอย่างก่อน แต่ Bitcoin นี่แ_่งแหวกมาก คือ กรูจะโอนตรงเลยโดยไม่ผ่านพวก ธ. กับค่าธรรมเนียมหน้าเลือด จบป่ะ

ตอนนี้ที่สงสัยแล้วอยากรู้ต่อคือแล้ว Blockchain มันคืออะไร? แต่คงต้องเป็นตอนต่อไปครับ ตอนนี้แรมผมเต็มแล้ว ก็ค่อยศึกษาไปครับ

ข้อมูลเพอ่มเติม

• https://bitcoin.org